เรามาเกริ่นนำกันก่อนเลยนะคะ ว่า ปกติแล้ว ไฟฟ้าสำหรับใช้งานภายในบ้าน ก็จะถูกคำนวนมาจากปริมาณความเป็นไปได้ในการใช้งานของเราค่ะ สมมุติว่าเพื่อนๆ อาศัยอยู่ในทาวโฮมแห่งหนึ่ง ซื้อบ้านมาเขาก็จะมีมิเตอร์น้ำและไฟฟ้าให้ค่ะ พร้อมใช้ได้เลย ซึ่งสิ่งทีเขาให้มานี้ก็มักจะเพียงพอแค่สำหรับการใช้งานในครัวเรือนค่ะ
ถ้าหากวันหนึ่งเราเริ่มมีการนำเอาเตาที่ใช้ในรูปแบบเชิงพาณิชย์(ลิ้งไปที่เตาเชิงพานิช) มาใช้ในครัวเรือนเพื่อการค้าขายด้วย เราแนะนำว่าให้ติดต่อไปที่การไฟฟ้าเพื่อเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าที่สูงขึ้นค่ะ
“บทความนี้ เราจะมาแนะนำเพื่อนๆ กันค่ะ ว่า ถ้าเราอยากจะเปิดร้านขายขนมเล็กๆ
หรือจะไม่เล็กก็ตาม ที่บ้านของเราเอง เราควรต้องเตรียมไฟอย่างไรกันบ้างค่ะ”
1.ตรวจสอบก่อนเลยว่ามิเตอร์ไฟของเรากี่แอมป์
โดยปกติแล้ว มิเตอร์บ้านทั่วไปจะใช้มิเตอร์ขนาด 5(15)A และ 15(45)A (ขยายความของเลขมิเตอร์คือ 5 แอมป์ รับได้สูงสุด 15 แอมป์ หากเป็น 15 แอมป์ รับได้สูงสุด 45 แอมป์ค่ะ) ใครที่ใช้มิเตอร์ขนาด 5(5)A อยู่ แนะนำให้เพิ่มได้เลยโดยไม่รีรอค่ะ แต่หากใครใช้ขนาด 15(45)A อยู่ ให้เรามาลองเช็คกันตามนี้ค่ะ
![meter vectors](https://amberbakersupply.com/wp-content/uploads/2022/04/Meter-Vector.jpeg)
ยกตัวอย่างเช่น ในบ้านมี
- พัดลม 75 วัตต์ จำนวน 2 ตัว คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 75/220×2=0.68 แอมป์
- หลอดไฟ 30 วัตต์ จำนวน 8 หลอด คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 30/220×8=1.09 แอมป์
- แอร์ 1,000 วัตต์ คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 1,000/220=4.54 แอมป์
- คอมพิวเตอร์ 400 วัตต์ คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 400/220=1.82 แอมป์
- หม้อหุงข้าว 500 วัตต์ คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 500/220=2.27 แอมป์
- เตารีด 430 วัตต์ คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 430/220=1.95 แอมป์
- โทรทัศน์ 43 วัตต์ คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 43/220=0.2 แอมป์
- ตู้เย็น 70 วัตต์ คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 70/220=0.32 แอมป์
หากนำกระแสไฟฟ้าทั้งหมดมารวมกันจะได้ 12.87 แอมป์ แล้วนำมาคูณด้วย 1.25 เผื่อปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อาจจะใช้มากขึ้นในอนาคต จะได้ประมาณ 16.09 แอมป์ (ทั้งนี้เป็นการคำนวณเบื้องต้นอย่างคร่าวๆ อาจมีการการเปลี่ยนแปลงตามขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า)
จากตัวอย่างจะเห็นว่าหากใช้มิเตอร์ 5(15)A ก็จะเอาไม่อยู่แล้วค่ะ ถ้าเราบังเอิญเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นำมาคำนวนนั้นพร้อมกันทุกชิ้น แบบตัวอย่างนี้แนะนำว่าเพื่อความปลอดภัย ให้เลือกเปลี่ยนเป็ฯมิเติร์ขนาด 15(45)A ไว้ก่อนเลยจะดีกว่าค่ะ
หากสมมุติว่าเราเปลี่ยนมิเตอร์เป็น 15(45)A เรียบร้อยแล้ว เรากำลังจะเปิดร้าน ขายขนมซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นดังนี้
- เตาทำขนม 1,500 วัตต์ จำนวน 3 เครื่อง คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 1,500/220×3=20.45 แอมป์
- เตาอบขนมปัง 3,000 วัตต์ จำนวน 1 เครื่อง คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 3,000/220=13.6
- แอร์ 1,000 วัตต์ 1 เครื่อง คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 1,000/220=4.54 แอมป์
- ไฟแสงสว่าง 30 วัตต์ 6 หลอด คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 30/220×6=0.82 แอมป์
- โนตบุ๊ค 200 วัตต์ 1 เครื่อง คิดเป็นกระแสไฟฟ้า 200/220=0.91 แอมป์
รวมกระแสไฟฟ้าทั้งหมดจะได้ 40.32 แอมป์ รวมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าเดิมในบ้านของเรา 12.87 แอมป์ จะได้ 53.19
เท่ากับว่าบ้านเราตอนนี้ใช้ไฟฟ้ามากถึง 53.19 แอมป์เลยทีเดียว แนะนำให้เปลี่ยนเป็นมิเตอร์ขนาด 30(100)A ได้เลย เพราะรับกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 100 แอมป์ค่ะ
![ปลั๊กไฟที่ใช้ภายในบ้าน](https://amberbakersupply.com/wp-content/uploads/2022/04/S__200007701-1066x800.jpg)
2. สำรวจจุดต่อปลั๊กไฟ
เมื่อเราจัดการเรื่องมิเตอร์ไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ถัดมาให้เริ่มสำรวจจุดต่อปลั๊กไฟของเราให้ดีค่ะ เริ่มจากการจัด Layout ของร้านเราก่อนเลยค่ะ ว่าอยากจะจัดวางอะไรไว้ตรงไหน จุดไหนบ้างที่จะต้องใช้ไฟฟ้า เมื่อจัดวางเลย์เอาท์เรียบร้อยแล้ว แนะนำให้เรียกหาช่างไฟมาช่วยค่ะ โดยเราจะต้องแจ้งช่างไฟว่า เราจะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรบ้าง กำลังไฟฟ้าเท่าไร วางในตำแหน่งไหน และให้ช่างไฟเดินไฟมาตามจุดต่างๆที่เราต้องการค่ะ และทางที่ดีควรจะต้องให้ช่างไฟติดตั้งเบรกเกอร์ไว้ให้สำหรับส่วนขายหน้าร้านเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเราด้วยนะคะ โดยแนะนำว่าควรต้องแยกจุดในส่วนของอุปกรณ์ครัวต่างๆ ออกจากแสงสว่าง จากแอร์ เพื่อหากเกิดปัญหาที่จุดใดจุดหนึ่งกระแสไฟฟ้าจะได้ไม่ต้องตัดไปทั้งหมดค่ะ
![](https://amberbakersupply.com/wp-content/uploads/2022/04/S__200007699-1066x800.jpg)
![ปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐาน มอก.](https://amberbakersupply.com/wp-content/uploads/2022/04/S__200007702-1066x800.jpg)
3. เลือกใช้ปลั๊กพ่วงที่ได้มาตราฐาน
หลังจากที่เราเดินไฟเสร็จแล้ว หากใช้งานแล้วปรากฎว่าเต้าเสียบไฟไม่เพียงพอ ก็จะต้องใช้ปลั๊กพ่วงมาช่วยเสริมค่ะ ในการเลือกใช้ปลั๊กพ่วงนั้นเพื่อนๆควรเลือกปลั๊กที่มีมาตรฐาน มี มอก.นะคะ ซึ่งราคาอาจจะแพงหน่อยแต่ปลอดภัยแน่นอนค่ะ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบบไหนคือปลั๊กพ่วงมาตรฐานมอก. อ่านที่บทความ ลิ้งค์นี้ ได้เลยคะ
เรื่องไฟฟ้าถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆเลยนะคะสำหรับผู้ที่กำลังจะเปิดร้านใหม่ ปกติแล้วบ้านอยู่อาศัยก็จะใช้มิเตอร์ที่รับกระแสไฟฟ้าน้อยๆ สำหรับเพื่ออยู่อาศัยโดยเฉพาะ ถ้าเราต้องการค้าขาย ก็ควรต้องมาเริ่มต้นที่จุดนี้ก่อนโดยไปติดต่อที่การไฟฟ้า และทางการไฟฟ้าเขาก็จะแจ้งมาว่าเราจะต้องเตรียมความพร้อมอะไรอย่างไรบ้างค่ะ และอย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายให้กับทางการไฟฟ้าด้วยนะคะ