เตาวาฟเฟิลฮ่องกง ถือเป็นสินค้าขายดีมากๆ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้เลยนะคะ เนื่องจากขนมชนิดนี้จะบอกว่าเป็นขนมที่ยอดฮิตตลอดกาลเลยก็ว่าได้ พักหลังมานี้เรามักจะได้ยินหลายๆคนเรียกกันว่า “เตากล่องเหลือง” ถ้าคนที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนก็จะงงว่า ทำไมต้องกล่องเหลือง ? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันให้ค้าา
พักหลังมานี้เรามักจะได้ยินหลายๆ คนเรียกกันว่า “เตากล่องเหลือง”
ถ้าคนที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนก็จะงงว่า ทำไมต้องกล่องเหลือง ?
เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายอยู่ในตอนนี้ มีหลายแบบ หลายราคา และแต่ละแบบคุณภาพก็แตกต่างกันออกไป ในปีแรกๆเลย ที่ทางบริษัทเรานำมาจำหน่ายก็เป็นเจ้าเตาที่อยู่ในกล่องสีเหลืองนี้ค่ะ ราคาช่วงแรกจะอยู่ที่ 3,500 – 3,800 บาท และในเวลาต่อมา ก็เริ่มมีเตาที่มาจากโรงงานอื่นซึ่งมีราคาต่างกันค่อนข้างมาก ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2,xxx บาท ซึ่งบริษัทเราก็ได้นำเข้ามาเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าเช่นกันน
ในช่วงปีนั้นบริษัทมียอดจำหน่ายรวมๆกัน เดือนละ 200-300 เครื่อง ทำให้เราพบปัญหาจากการใช้งานสินค้าที่มาจากต่างโรงงานกันค่ะ ซึ่งปัญหาที่เราพบคือ ตัวสินค้าที่มาจากโรงงานที่มีราคาถูกกว่า คุณภาพของวัสดุที่นำมาประกอบขึ้นรูปเตา และอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อวงจรภายในตัวเครื่อง มีคุณภาพค่อนข้างต่ำ เช่น โลหะภายในที่เป็นโลหะที่เกิดสนิมง่าย ทำให้สนิมมาเกาะที่ขั้วไฟต่างๆจนเกิดปัญหา และไม่สามารถถอดซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ได้ (เนื่องจากสนิมกินจนได้รับความเสียหาย TT) จุดเชื่อมขั้วไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานที่ทำให้เกิดการช็อตได้บ่อยๆ เป็นต้น
ตอนหลังทางบริษัทจึงยกเลิกการนำเข้าสินค้าตัวถูก และแจ้งลูกค้าว่าเรามีแต่ “เตากล่องเหลือง” จำหน่ายค่าา ทำให้ตอนเป็นที่ติดปากกันมา ว่า “เตากล่องเหลือง” ค่ะ แต่ตอนนี้ใช่ว่าเตากล่องเหลืองจะดีเลิศเลอเพอเฟ็คไปหมดทุกอย่างนะคะ เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟังกัน ว่าเตาตัวกล่องเหลืองนี้ มันมี ข้อดี ข้อเสีย ต่างกันอย่างไร แล้วมันคุ้มค่ามั้ยย กับราคานี้ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกคนมารู้จักกับเตาวาฟเฟิลฮ่องกงกล่องเหลืองกันค่าา




เตากล่องเหลือง เป็นแค่คำพูดติดปากของใครหลายๆ คนนะคะ ก็คือเตาวาฟเฟิลฮ่องกงนั่นเองค่ะ เตานี้ใช้ระบบไฟฟ้า กำลังไฟฟ้า 1500 วัตต์ ปกติใช้อุณหภูมิอยู่ที่ 170-180 องศาเซลเซียส และตั้งเวลาในการอบขนมโดยประมาณ 3 นาทีค่ะ รูปร่างภายนอกตัวเครื่อง ตัวบอดี้ของเตาเป็นแสตนเลส 201 ด้ามจับเป็นไม้ บริเวณแผงปุ่มจะมีสวิตซ์ ปิด-เปิด ปุ่มตั้งอุณหภูมิ และ นาฬิการไขลานในการตั้งเวลา เครื่องรุ่นนี้มีชื่อรุ่นว่า FY-6 เป็นรุ่นที่นิยมที่สุดในท้องตลาดเลยค่ะ
ปัญหาที่พบมากกับเตาวาฟเฟิลฮ่องกงรุ่นกล่องเหลือง
ปกติรุ่นนี้ถ้าเราใช้งานและดูแลรักษาดีๆ จะสามารถใช้ได้นานหลายปีเลยค่ะ แต่สิ่งที่จะมีปัญหาก่อนเลยคือ หน้าเตาที่เคลือบเทปลอนค่ะ ที่หลายคนเจอปัญหา “ขนมติดเตา” อันดับถัดมาคือ “นาฬิกาจับเวลาไม่ค่อยเดิน” “เตาไม่ร้อน” และถัดมาคือ “เครื่องเปิดไม่ติด” ค่ะ
วันนี้เราจะมาดูกันค่ะ ว่า สาเหตุที่กล่าวมาเบื้องต้นนี้ เกิดจากอะไรกันบ้าง
-
“ขนมติดเตา” ปัญหานี้เกิดจากเทปลอนเสื่อมสภาพ ซึ่งการที่เทปลอนเสื่อมสภาพนี้เกิดจากการใช้งานที่ไม่ถูกวิธี และการขาดการดูแลรักษาค่ะ การใช้งานที่ไม่ถูกวิธีคือ การที่เราเอาวัสดุที่แหลมคม หรือแข็ง มาใช้ขูดขีดบริเวณหน้าเตา ส่วนในเรื่องของการขาดการดูแลรักษาคือ โดยปกติแล้วเราควรต้องทำความสะอาดหน้าเตาของเราทุกครั้งหลังจากที่ทำขนมเสร็จแล้วในแต่ละชิ้น เนื่องจากทุกครั้งที่เราทำขนม จะมีเศษแป้งเล็กๆที่เรามองไม่เห็น เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้ใช้แปรงปัดเตาทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากทำขนมเลยคะ แปรงปัดเตาที่เราแนะนำใช้ ควรต้องเป็นขนสัตว์แท้ 100% เท่านั้นนะคะ ส่วนใครที่สนใจเตาวาฟเฟิลฮ่องกงรุ่นเคลือบพิเศษก็มีจำหน่ายนะคะ เข้ามาดูได้ ที่นี่เลย
-
“นาฬิกาจับเวลา ไม่ค่อยเดิน” อันนี้เป็นปัญหาที่หาทางแก้ไม่ได้เนื่องจากสภาพแวดล้อมค่ะ ปกตินาฬิการไขลานจะเป็นชิ้นส่วนเล็กๆอยู่ด้านในและสภาพแวดล้อมในการผลิตที่เมืองจีนกับเมืองไทยค่อนข้างต่างกันมากอยู่ค่ะอาจทำให้ชิ้นส่วนบางอย่างไม่สามารถใช้ได้ดีค่ะ ตัวนี้เราแนะนำว่า ให้หาเป็นนาฬิกาดิจิตอลมาใช้แทนแบบไขลานนะคะ หรือถ้าใครอยากได้แบบนาฬิกาดิจิตอลในตัวเลย ทางเราก็มีจำหน่ายนะคะ คลิก
-
“เตาไม่ร้อน” เกิดได้จากหลายสาเหตุมากๆ บ่อยครั้งจะเกิดจากลวดของแผ่นทำความร้อนขาด ซึ่งสาเหตุนี้เราจะซ่อมไม่ได้ค่ะ ต้องเปลียนอะไหล่อย่างเดียวเลย ส่วนสาเหตุอื่นๆคืออาจเกิดจากการช็อตในตัวเครื่องค่ะ
-
“เครื่องเปิดไม่ติด” บางทีอาจเกิดปัญหาจากไฟฟ้ากระชากบ้าง ซึ่งก็อาจจะทำให้สวิตซ์เสียนั่นเอง เพราะฉะนั้นใครเจอปัญหานี้ให้พาน้องไปหาช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าแถวบ้านเปลี่ยนสวิตซ์ให้ได้เลยนะคะ หรือถ้าไม่มีช่าง สามารถส่งมาให้ช่างของทางบริษัทได้เหมือนกันค่ะ คลิก
ข้อดีของเตารุ่นนี้
– ราคาไม่แรงมาก ของทางบริษัทเราที่จำหน่ายอยู่ราคา 2,850 บาท (อัพเดทเมื่อวันที่ 21/3/2565) เป็นราคาที่เข้าถึงได้
– วัสดุและชิ้นส่วนด้านในค่อนข้างดี สามารถซ่อมถอดเปลี่ยนทุกอย่างได้เมื่อเครื่องมีปัญหา ไม่ต้องถึงกับซื้อเครื่องใหม่เมื่อมีปัญหาค่ะ
ข้อเสีย
– เทปลอนเสื่อมสภาพค่อนข้างไว หากทำความสะอาดไม่ดี ยิ่งเสื่อมไวมาก
– นาฬิกาจับเวลาค่อนข้างมีปัญหา
– เครื่องอาจมีปัญหาง่ายหากดูแลความสะอาดไม่ดี
ทั้งนี้ทั้งนั้นจากที่ได้เล่าให้ฟังเบื้องต้นแล้วนะคะ ถ้าให้เทียบกับคุณภาพและราคา ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ค่ะ
ถ้าใครอยากได้เครื่องที่มีคุณภาพดีกว่านี้ ก็จะเป็นรุ่นที่เป็นดิจิตอล สำหรับตั้งเวลาและอุณหภูมิค่ะ ราคาจะอยู่ที่ 6,500 บาท (คลิก)
และถ้าใครอยากได้เครื่องที่มีคุณภาพเทปลอนดีขึ้น ราคาเครื่องจะอยู่ที่ ประมาณ 3,850 บาทค่ะ แต่ถ้าเลือกใช้เทปลอนคุณภาพดี แต่ขาดการดูแลรักษา ก็อาจไม่คุ้มได้เหมือนกันนะคะ
เปิดสูตรทำขนมวาฟเฟิลฮ่องกง อย่างง่ายยย (สำหรับ 2 ที่)
วัตถุดิบที่ต้องเตรียม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 175 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำตาลทราย 125 กรัม
- นมสด 50 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
- กลิ่นวานิลา 5 มิลลิลิตร
- เนยจืดละลาย 30 กรัม
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- ชามผสมแป้ง
- ตะกร้อมือ
- ถ้วยตวงแป้ง
- เตาทำขนมวาฟเฟิลฮ่องกง
- ไม้ยาวสำหรับแกะขนมออกจากเตา
- ตะแกรงผึ่งขนม
วิธีทำ
- ผสมส่วนผสมของแห้งทั้งหมดให้เข้ากัน ได้แก่ แป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู แป้งข้าวโพด เกลือ
- ผสมส่วนผสมของ ไข่ไก่ น้ำตาลทราย นมสด น้ำเปล่า กลิ่นวานิลา ให้เข้ากัน จนน้ำตาลละลายดี
- นำส่วนผสมข้อที่ 2 เทลงผสมข้อที่ 1 แล้วคนให้เข้ากัน
- เติมเนยจืดละลายลงไปเป็นอันดับสุดท้ายแล้วคนจนกว่าส่วนผสมทั้งหมดจะเข้ากัน
ขั้นตอนการเตรียมเตาทำขนมวาฟเฟิลฮ่องกง
ในขั้นตอนนี้เราจะไม่ได้ใช้เตาขนาดเล็กสำหรับใช้ในครัวเรือนนะคะ เราจะใช้เตาเชิงพาณิชย์สำหรับใช้ค้าขายค่ะ เนื่องจากจะทำให้ได้ขนมที่สีสวยน่ารับประทานกว่าค่ะ
- เปิดเตาไปที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส รอจนกว่าไฟแสดงสถานะอุณหภูมิจะดับลง
- ตวงแป้ง 150-160 มิลลิลิตร และใส่ไส้ขนมที่ชอบลงไปในแป้งได้เลยค่ะ
- เทแป้งที่ตวงมาพร้อมไส้ขนมลงไปในเตา แล้วใช้ไม้เกลี่ยแป้งให้เต็มพิมพ์ ขั้นตอนนี้เราต้องใช้ความเร็วกันหน่อยนะคะ ถ้าเราเทช้า แป้งจะไหลไม่เต็มลูกค่ะ
- พลิกเตากลับไปอีกด้านหนึ่ง
- ตั้งเวลา 3 นาที
- เมื่อครบเวลา 3 นาทีแล้ว ให้กลับด้านขนม แล้วเปิดเตาขึ้น
- ใช้ไม้ดึงขนมออก แล้วนำมาผึ่งพัดลมประมาณ 1 นาที เพื่อให้ขนมกรอบค่ะ
- ใช้แปรงขนสัตว์ปัดทำความสะอาดหน้าเตา
เพียงเท่านี้เราก็ได้ขนมวาฟเฟิลฮ่องกงกรอบๆ อร่อยๆ ทานแล้วค่าา ^^
คำถามที่พบบ่อย สำหรับเตาวาฟเฟิลฮ่องกง
Q: ไมขนมถึงมีจุดสีขาวไม่กรอบเต็มแผ่น
A: การเกิดจุดสีขาวบนชิ้นขนมที่ทำให้ไม่กรอบเกิดได้จากหลายสาเหตุมากๆเลยค่ะ
– การเปิดเตา การขยับฝาเตา การกด บีบฝาเตา ในขณะที่ขนมกำลังขึ้นฟูและยังไม่สุก จะทำให้เปลือกขอบนอกของขนมไม่สัมผัสกับผิวเตา ซึ่งจะทำให้ขนมบริเวณที่ไม่สัมผัสกับผิวเตาไม่เป็นสีน้ำตาลเหลืองกรอบค่ะ
– เกิดจากความมันบนผิวเตา หากใครที่ใช้น้ำมัน หรือไส้ขนมที่มีความมัน และทำให้คราบน้ำมันติดอยู่บนผิวเตาก็จะทำให้เกิดจุดสีขาวบนขนมได้ค่ะ
– ความชื้นในเนื้อขนม สูตรของขนมหรือการใส่ไส้ขนม ที่มีปริมาณน้ำมากเกินไป จะทำให้เนื้อขนมไม่สามารถฟูและเซทตัวเต็มพิมพ์ได้ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แป้งมีจุดที่เป็นสีขาวค่ะ
– สูตรของแป้ง สูตรของแป้งบางสูตรที่มีปริมาณของของเหลว และไขมันมากเกินไปจะทำให้ขนมไม่กรอบและมีสีขาวด่างไม่สวยค่ะ
ไฟฟ้า ไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการทำขนมเลยค่ะ ปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้ามีได้หลายสาเหตุดังนี้
1. การใช้ปลั๊กพ่วงที่ไม่ได้มาตรฐาน การใช้ปลั๊กพ่วงที่เป็นสายไฟเส้นเล็กไม่ได้มาตรฐาน และไม่มี มอก. สาเหตุนี้ จะทำให้แรงดันไฟฟ้าตกและทำให้การทำงานของตัวเครื่อง ไม่ได้ 100% ค่ะ
2. การพ่วงไฟหลายทอด เช่น การพ่วงไฟฟ้าออกมาจากในบ้าน การพ่วงไฟฟ้าตามตลาดนัดเพื่อมาที่หน้าร้าน ลักษณะของการพ่วงไฟฟ้าแบบนี้จะทำให้แรงดันไฟฟ้าลดลง หรืออาจเกิดความร้อนหรือเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งการใช้งานในลักษณะดังกล่าวนี้จะส่งลผลกับเตาทำขนมของเราด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าจะต้องใช้แรงดันไฟ 220V แต่ถ้าหากว่าเราพ่วงไฟฟ้ามาหลายทอดหลายต่อ ก็อาจจะทำให้แรงดันไฟของเราตกลงไปที่ 200V 180V ได้ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานเตาของเราลดลงนั่นเองค่ะ ด้วยสาเหตุนี้เองจึงทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดมักจะเขียนไว้ในคู่มือว่า ห้ามใช้ปลั๊กพ่วงเด็ดขขาด
แต่ยังไงก็ตาม เตาของเราก็ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่างเช่นตู้เย็น เรายังสามารถใช้ปลั๊กพ่วงได้ แต่การใช้ปลั๊กพ่วง เราต้องพิจารณาเลือกใช้ปั๊กพ่วงที่ได้มาตรฐาน ดังนี้
1. ปั๊กพ่วงต้องมี มอก. ถึงราคาจะแพงหน่อย แต่ได้มาตรฐานและความปลอดภัย เพราะเรื่องไฟฟ้า ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะคะ
2. ปลั๊กพ่วงที่รองรับกำลังไฟฟ้าได้มากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราใช้งาน เช่น ใช้ปลั๊กพ่วงที่รับกำลังไฟฟ้าได้ 2500W กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟฟ้า 1500W แต่ถ้าหากพ่วงใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟ 1500W จำนวน 2 ตัว พวกกับปลั๊ก 2500W แบบนี้กำลังไฟจะเกินไป 500W ก็จะไม่สามารถใช้งานได้นะคะ
3. เต้าเสียบต้องมีม่าน เพื่อป้องกันน้ำ หรือเศษผงต่างๆ เข้าไปทำให้ช็อตด้านใน
ตารางเปรียบเทียบเตาวาฟเฟิลฮ่องกงรุ่นอื่นๆ ของ Amber Bake
